สมเด็จพระสันตะปาปาฉลองวันถวายพระกุมารเยซูในพระวิหารวันระลึกถึงชีวิตของผู้ถวายตน

7 ก.พ.

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงเฉลิมฉลองวันถวายพระกุมารเยซูในพระวิหาร ด้วยการสวดทำวัตรอย่างสง่าในพระวิหารนักบุญเปโตร  วันฉลองวันนี้เป็นวันฉลองการนำพระกุมารเยซูไปยังพระวิหารภายหลังจากประสูติได้ 40วัน ตามธรรมเนียมดั้งเดิมเรียกขานวันนี้ว่า วันมิสซาถวายเทียน ซึ่งจะมีการเสกเทียนและมีขบวนแห่เทียนที่จุดส่องสว่างเข้าสู่ภายในวัดสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่าพิธีกรรมในวันนี้เน้นว่า พระคริสตเจ้าคือองค์ความสว่าง การฉลองวันนี้นับเป็นวันฉลองทางพิธีกรรมที่จัดขึ้นตามเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เพราะเราจัดวันฉลองวันนี้ขึ้นหลังจากการฉลองคริสตมาส 40 วันพอดี โดยมีประเด็นหลักคือ พระคริสตเจ้าคือองค์ความสว่าง  ซึ่งเป็นเป็นการฉลองที่สืบเนื่องจากเทศกาลคริสตมาสที่ส่องแสงเจิดจ้าในวันฉลองพระคริสตเจ้าแสดงองค์ และส่องประกายสืบเนื่องมาจนถึงในวันฉลองวันนี้

การฉลองการถวายพระกุมารเยซูในพระวิหารวันนี้ ถือเป็นวันระลึกถึงชีวิตของผู้ถวายตนประจำปีอีกด้วย  สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเชื่อมโยงเรื่องราวจากพระวรสารที่มีการนำพระกุมารเยซูไปถวายในพระวิหาร กับเรื่องของชายและหญิงที่ได้อุทิศชีวิตของตนให้กับพระศาสนจักร พระองค์กล่าวว่า “วันฉลองวันนี้เราจึงเฉลิมฉลองธรรมล้ำลึกแห่งการถวายตัว เราระลึกถึงการถวายตัวของพระคริสตเจ้า เราระลึกถึงการถวายตัวของพระนางมารีย์ เราระลึกถึงการถวายตัวของผู้ที่อุทิศตนเพื่อติดตามพระเยซูเพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้า”  การฉลองประจำปีนี้เป็นโอกาสที่จะให้เราได้แสดงความกตัญญูต่อผู้ที่ได้อุทิศชีวิตในการรับใช้พระเจ้าและเพื่อมนุษย์ โดยน้อมรับค่านิยมแห่งพระวรสาร อันได้แก่การถือความยากจน การครองชีวิตโสด และ การนบนอบเชื่อฟัง  ในเวลาเดียวกัน โอกาสนี้เป็นโอกาสที่จะได้ส่งเสริมกระแสเรียกแห่งการดำเนินชีวิตเป็นผู้ถวายตน  โดยผ่านทางคำภาวนา   คุณพ่อ เบิร์นด์ ฮาเกนคอร์ด พระสงฆ์เยสุอิตผู้รณรงค์เรื่องนี้มากว่า 20 ปี กล่าวถึงความหมายของวันวันนี้ว่า มีความหมายที่สำคัญสองสามประการคือ วันภาวนาเพื่อพระกระแสเรียก และ การรื้อฟื้น เราต้องรื้อฟื้นอย่างสม่ำเสมอต่อคำปฏิญาณแห่งจิตตารมณ์ที่เราจะดำเนินชีวิต ทั้งหมดสามประการนี้เป็นความหมายของการฉลองในวันนี้  การดำเนินชีวิตเยี่ยงผู้ถวายตน เป็นหนทางที่จะทำให้มนุษย์เราทั้งชายและหญิง สามารถจะจดจำพระเยซูคริสตเจ้าในโลกนี้ได้  “เราพยายามที่จะทำเช่นนี้ เป็นหนทางหนึ่งที่เราจะสามาถจดจำพระคริสตเจ้าได้ในโลก ดังนั้น สิ่งที่เราพยายามจะทำ หรือ พยายามจะเป็น หรือ ได้รับการเรียกให้เป็น ข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับจิตตารมณ์ของวันฉลองในวันนี้เป็นอย่างยิ่ง”

ใส่ความเห็น